วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรียนภาษาอังกฤษอย่างไรให้เก่ง

มีหลายคน มาขอเรียนภาษาอังกฤษกับฉัน ซึ่งเป็นคนไทยแท้ๆ
ฉันเริ่มเรียนภาษาอังกฤษพร้อมๆ กันกับเพื่อนทุกคนนั่นแหล่ะ
ฉันเรียนโรงเรียนรัฐบาล สมัยก่อน เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนป.4
ไม่ใช่ตั้งแต่อนุบาลเหมือนปัจจุบัน
ฉันไม่เคยเรียนเมืองนอก ไม่เคยไปเมืองนอก แต่ฉันพูดภาษาอังกฤษได้คล่องดี
และสามารถเขียนได้ด้วย.. หลายคนเบื่อ เพราะคิดว่า ภาษาอังกฤษ คือ "วิชา" หนึ่ง
ที่ต้อง "เรียน" มันเลยน่าเบื่อ และท้อแท้ที่จะเรียนรู้ สุดที่จะทน!
จงจำไว้ว่า ภาษาอังกฤษ คือ "คำเรียก" ที่มนุษย์พวกนึง เรียกของที่เห็นเหมือนๆ กันว่า อีกอย่างหนึ่ง...
เราเรียกไอ้ไม้สี่เหลี่ยมที่มีขาสี่ข้างว่า "โต๊ะ" แต่พวกคนหัวทองเขาเรียกมันว่า "เทเบิ้ล" เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องเรียนรู้คือ เมื่อเราจะเข้าใจภาษาอังกฤษได้นั้น เราจะต้องรู้ว่า สิ่งต่างๆ ที่เห็นเหมือนๆ กันนี้ ภาษานั้นเรียกว่าอะไร? อันนี้เป็นหลักใช้ได้กับการเรียนภาษาทุกภาษาในโลก การจำคำเรียกต่างๆ นั้นสำคัญที่สุด
สิ่งที่สอง คือเรื่อง ความเข้าใจ หลักของการสื่อสาร
ไม่ใช่เรื่องของไวยากรณ์แต่เป็นเรื่องความเข้าใจระหว่างคนสองคนเป็นสำคัญ การสื่อสารจึงจะสัมฤทธิ์ผล.. มนุษย์สามารถสื่อสารกันได้ในบางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด แต่ใช่ท่าทาง.. ดังนั้นสำหรับผู้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติใหม่ๆ เจอฝรั่ง อย่าวิ่งหนี! อย่ากลัวที่จะถูกเขาจับผิดเรื่องไวยากรณ์ ฝรั่งเขาไม่รอฟังว่าจะเป็น is, am, are หรือ was were แต่เขาต้องการจะรู้ว่าเราต้องการจะบอกอะไรมากกว่า  พูดไม่ได้ให้เต้นไปมา ทำท่าจนกว่าจะรู้เรื่อง แล้วฝรั่ง จะพูดคำๆนั้นที่เราอยากบอกเขา ออกมาจากปากเอง.. ทำให้เราจำได้แม่นกว่า เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น และศัพท์คำนั้นจะถูกนำมาใช้ทีหลัง
สิ่งที่สามคือ หัดฟัง และหัดอ่าน
เด็กเล็กๆ 2-3 ขวบยังพูดได้ แล้วเราโตจะตาย.. ทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่อง? ให้ถามตัวเองทุกครั้งที่รู้สึกขี้เกียจจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ร่างกายเรามักปฏิเสธตัวหนังสือภาษาอังกฤษทันทีที่เห็น ยกตัวอย่างบทความอะไรก็ตามที่มีสองภาษาคู่กัน ตาเราจะลาย และอ่านข้ามภาษาอังกฤษไปเลย..
มนุษย์มีทักษะในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ตามลำดับ การพูดภาษาอังกฤษได้ มาก่อนการอ่านออก.. แต่ในเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ควรหัดอ่านไปด้วยเลยจะทำให้เรียนรู้เร็วมากขึ้น เราสามารถประมวลเสียงพูด กับตัวหนังสือเข้าด้วยกัน
ข้อสี่ คือ ไวยากรณ์ อยู่สุดท้าย
การศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศไทยเรานี่แย่ที่สุด.. สิ่งแรกที่โรงเรียนในสมัยก่อน (หรืออาจมีในปัจจุบัน) คือ ทันทีที่เข้าห้องเรียน คำแรกๆ ที่เรารู้คือ an apple, a cat, a rat, a dog ฯลฯ มันยากนะ apple ไม่ใช่ผลไม้บ้านเรา / rat มันเป็นหนูนา กว่าจะเก่งอังกฤษ โง่ไปแล้วกว่า 50% หรือประโยคทักทาย Hello / How are you? ฝรั่งทักกันที Hi! Whatzz da heck on, dude? แล้วไอ้ a / an/ the ที่เรียนมามันหายไปไหนหมด?
จะพูดอังกฤษได้ต้องอาศัยการฟัง- การอ่าน ฟังเพลงฝรั่งเยอะๆ, ดูหนัง Soundtrack, Chat กับฝรั่ง
ถ้าไม่ได้ไปสอบ TOEIC TOEFLอย่าไปนั่งหลังขดหลังแข็งเรียนตามสถาบันภาษาเล้ยยย... ชาตินี้ก็อ่านไม่ออก.. พูดไม่ได้ด้วย