วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ศัพท์น้ำท่วม
ช่วงนี้อาจได้เห็นศัพท์เหล่านี้บนหน้าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษกันแทบทุกวัน รู้ไว้ซะหน่อยก็ดีค่ะ ^^
3 นี้แปลว่า "น้ำท่วม" ค่ะ Flood / Deluge / Inundation จำให้ขึ้นใจเลยค่ะ!
ถ้าจะถามฝรั่งว่า บ้านน้ำท่วมยัง? ใช้ว่า Is your house flooded?
ถ้าอยากจะใช้คำปลอบใจช่วงน้ำท่วม ก็พูดว่า Look after yourself and try to stay dry. (ดูแลตัวเองน้าา!)
จะบอกว่า ตลาดรังสิตไปซะแร้ว (ท่วม 100%) ก็พูดว่า Rangsit Market has gone. / Rangsit Market is completely inundated.
I'm being a volunteer helping out flood victims = ฉันเป็นอาสาฯ ช่วยน้ำท่วม
Thailand is suffering from severe flood = ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วม
Soldiers fixed breached dyke = ทหารซ่อมคันกั้นน้ำ
flash flood = น้ำท่วมฉับพลัน
flood gate = ประตูน้ำ
submerge = จมน้ำ
torrent = กระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
flood victim(s) = ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
sandbag = กระสอบทราย
ิbarrier = กำแพงกั้นน้ำ
dyke = คันกั้นน้ำ
volunteer = อาสาสมัคร
If you are in the flood, you must remain level-headed at all times = ถ้าเจอกับปัญหาน้ำท่วม ต้องมีสติตลอดเวลานะคะ ^^
ขออนุญาตไปย้ายของขึ้นชั้นบนก่อน เดี๋ยวว่างแล้วมา update ให้ใหม่ค่ะ...
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เรียนภาษาอังกฤษอย่างไรให้เก่ง
มีหลายคน มาขอเรียนภาษาอังกฤษกับฉัน ซึ่งเป็นคนไทยแท้ๆ
ฉันเริ่มเรียนภาษาอังกฤษพร้อมๆ กันกับเพื่อนทุกคนนั่นแหล่ะ
ฉันเรียนโรงเรียนรัฐบาล สมัยก่อน เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนป.4
ไม่ใช่ตั้งแต่อนุบาลเหมือนปัจจุบัน
ฉันไม่เคยเรียนเมืองนอก ไม่เคยไปเมืองนอก แต่ฉันพูดภาษาอังกฤษได้คล่องดี
และสามารถเขียนได้ด้วย.. หลายคนเบื่อ เพราะคิดว่า ภาษาอังกฤษ คือ "วิชา" หนึ่ง
ที่ต้อง "เรียน" มันเลยน่าเบื่อ และท้อแท้ที่จะเรียนรู้ สุดที่จะทน!
จงจำไว้ว่า ภาษาอังกฤษ คือ "คำเรียก" ที่มนุษย์พวกนึง เรียกของที่เห็นเหมือนๆ กันว่า อีกอย่างหนึ่ง...
เราเรียกไอ้ไม้สี่เหลี่ยมที่มีขาสี่ข้างว่า "โต๊ะ" แต่พวกคนหัวทองเขาเรียกมันว่า "เทเบิ้ล" เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องเรียนรู้คือ เมื่อเราจะเข้าใจภาษาอังกฤษได้นั้น เราจะต้องรู้ว่า สิ่งต่างๆ ที่เห็นเหมือนๆ กันนี้ ภาษานั้นเรียกว่าอะไร? อันนี้เป็นหลักใช้ได้กับการเรียนภาษาทุกภาษาในโลก การจำคำเรียกต่างๆ นั้นสำคัญที่สุด
สิ่งที่สอง คือเรื่อง ความเข้าใจ หลักของการสื่อสาร
ไม่ใช่เรื่องของไวยากรณ์แต่เป็นเรื่องความเข้าใจระหว่างคนสองคนเป็นสำคัญ การสื่อสารจึงจะสัมฤทธิ์ผล.. มนุษย์สามารถสื่อสารกันได้ในบางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด แต่ใช่ท่าทาง.. ดังนั้นสำหรับผู้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติใหม่ๆ เจอฝรั่ง อย่าวิ่งหนี! อย่ากลัวที่จะถูกเขาจับผิดเรื่องไวยากรณ์ ฝรั่งเขาไม่รอฟังว่าจะเป็น is, am, are หรือ was were แต่เขาต้องการจะรู้ว่าเราต้องการจะบอกอะไรมากกว่า พูดไม่ได้ให้เต้นไปมา ทำท่าจนกว่าจะรู้เรื่อง แล้วฝรั่ง จะพูดคำๆนั้นที่เราอยากบอกเขา ออกมาจากปากเอง.. ทำให้เราจำได้แม่นกว่า เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น และศัพท์คำนั้นจะถูกนำมาใช้ทีหลัง
สิ่งที่สามคือ หัดฟัง และหัดอ่าน
เด็กเล็กๆ 2-3 ขวบยังพูดได้ แล้วเราโตจะตาย.. ทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่อง? ให้ถามตัวเองทุกครั้งที่รู้สึกขี้เกียจจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ร่างกายเรามักปฏิเสธตัวหนังสือภาษาอังกฤษทันทีที่เห็น ยกตัวอย่างบทความอะไรก็ตามที่มีสองภาษาคู่กัน ตาเราจะลาย และอ่านข้ามภาษาอังกฤษไปเลย..
มนุษย์มีทักษะในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ตามลำดับ การพูดภาษาอังกฤษได้ มาก่อนการอ่านออก.. แต่ในเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ควรหัดอ่านไปด้วยเลยจะทำให้เรียนรู้เร็วมากขึ้น เราสามารถประมวลเสียงพูด กับตัวหนังสือเข้าด้วยกัน
ข้อสี่ คือ ไวยากรณ์ อยู่สุดท้าย
การศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศไทยเรานี่แย่ที่สุด.. สิ่งแรกที่โรงเรียนในสมัยก่อน (หรืออาจมีในปัจจุบัน) คือ ทันทีที่เข้าห้องเรียน คำแรกๆ ที่เรารู้คือ an apple, a cat, a rat, a dog ฯลฯ มันยากนะ apple ไม่ใช่ผลไม้บ้านเรา / rat มันเป็นหนูนา กว่าจะเก่งอังกฤษ โง่ไปแล้วกว่า 50% หรือประโยคทักทาย Hello / How are you? ฝรั่งทักกันที Hi! Whatzz da heck on, dude? แล้วไอ้ a / an/ the ที่เรียนมามันหายไปไหนหมด?
จะพูดอังกฤษได้ต้องอาศัยการฟัง- การอ่าน ฟังเพลงฝรั่งเยอะๆ, ดูหนัง Soundtrack, Chat กับฝรั่ง
ถ้าไม่ได้ไปสอบ TOEIC TOEFLอย่าไปนั่งหลังขดหลังแข็งเรียนตามสถาบันภาษาเล้ยยย... ชาตินี้ก็อ่านไม่ออก.. พูดไม่ได้ด้วย
ฉันเริ่มเรียนภาษาอังกฤษพร้อมๆ กันกับเพื่อนทุกคนนั่นแหล่ะ
ฉันเรียนโรงเรียนรัฐบาล สมัยก่อน เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนป.4
ไม่ใช่ตั้งแต่อนุบาลเหมือนปัจจุบัน
ฉันไม่เคยเรียนเมืองนอก ไม่เคยไปเมืองนอก แต่ฉันพูดภาษาอังกฤษได้คล่องดี
และสามารถเขียนได้ด้วย.. หลายคนเบื่อ เพราะคิดว่า ภาษาอังกฤษ คือ "วิชา" หนึ่ง
ที่ต้อง "เรียน" มันเลยน่าเบื่อ และท้อแท้ที่จะเรียนรู้ สุดที่จะทน!
จงจำไว้ว่า ภาษาอังกฤษ คือ "คำเรียก" ที่มนุษย์พวกนึง เรียกของที่เห็นเหมือนๆ กันว่า อีกอย่างหนึ่ง...
เราเรียกไอ้ไม้สี่เหลี่ยมที่มีขาสี่ข้างว่า "โต๊ะ" แต่พวกคนหัวทองเขาเรียกมันว่า "เทเบิ้ล" เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องเรียนรู้คือ เมื่อเราจะเข้าใจภาษาอังกฤษได้นั้น เราจะต้องรู้ว่า สิ่งต่างๆ ที่เห็นเหมือนๆ กันนี้ ภาษานั้นเรียกว่าอะไร? อันนี้เป็นหลักใช้ได้กับการเรียนภาษาทุกภาษาในโลก การจำคำเรียกต่างๆ นั้นสำคัญที่สุด
สิ่งที่สอง คือเรื่อง ความเข้าใจ หลักของการสื่อสาร
ไม่ใช่เรื่องของไวยากรณ์แต่เป็นเรื่องความเข้าใจระหว่างคนสองคนเป็นสำคัญ การสื่อสารจึงจะสัมฤทธิ์ผล.. มนุษย์สามารถสื่อสารกันได้ในบางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด แต่ใช่ท่าทาง.. ดังนั้นสำหรับผู้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติใหม่ๆ เจอฝรั่ง อย่าวิ่งหนี! อย่ากลัวที่จะถูกเขาจับผิดเรื่องไวยากรณ์ ฝรั่งเขาไม่รอฟังว่าจะเป็น is, am, are หรือ was were แต่เขาต้องการจะรู้ว่าเราต้องการจะบอกอะไรมากกว่า พูดไม่ได้ให้เต้นไปมา ทำท่าจนกว่าจะรู้เรื่อง แล้วฝรั่ง จะพูดคำๆนั้นที่เราอยากบอกเขา ออกมาจากปากเอง.. ทำให้เราจำได้แม่นกว่า เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น และศัพท์คำนั้นจะถูกนำมาใช้ทีหลัง
สิ่งที่สามคือ หัดฟัง และหัดอ่าน
เด็กเล็กๆ 2-3 ขวบยังพูดได้ แล้วเราโตจะตาย.. ทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่อง? ให้ถามตัวเองทุกครั้งที่รู้สึกขี้เกียจจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ร่างกายเรามักปฏิเสธตัวหนังสือภาษาอังกฤษทันทีที่เห็น ยกตัวอย่างบทความอะไรก็ตามที่มีสองภาษาคู่กัน ตาเราจะลาย และอ่านข้ามภาษาอังกฤษไปเลย..
มนุษย์มีทักษะในการ ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ตามลำดับ การพูดภาษาอังกฤษได้ มาก่อนการอ่านออก.. แต่ในเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ควรหัดอ่านไปด้วยเลยจะทำให้เรียนรู้เร็วมากขึ้น เราสามารถประมวลเสียงพูด กับตัวหนังสือเข้าด้วยกัน
ข้อสี่ คือ ไวยากรณ์ อยู่สุดท้าย
การศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศไทยเรานี่แย่ที่สุด.. สิ่งแรกที่โรงเรียนในสมัยก่อน (หรืออาจมีในปัจจุบัน) คือ ทันทีที่เข้าห้องเรียน คำแรกๆ ที่เรารู้คือ an apple, a cat, a rat, a dog ฯลฯ มันยากนะ apple ไม่ใช่ผลไม้บ้านเรา / rat มันเป็นหนูนา กว่าจะเก่งอังกฤษ โง่ไปแล้วกว่า 50% หรือประโยคทักทาย Hello / How are you? ฝรั่งทักกันที Hi! Whatzz da heck on, dude? แล้วไอ้ a / an/ the ที่เรียนมามันหายไปไหนหมด?
จะพูดอังกฤษได้ต้องอาศัยการฟัง- การอ่าน ฟังเพลงฝรั่งเยอะๆ, ดูหนัง Soundtrack, Chat กับฝรั่ง
ถ้าไม่ได้ไปสอบ TOEIC TOEFLอย่าไปนั่งหลังขดหลังแข็งเรียนตามสถาบันภาษาเล้ยยย... ชาตินี้ก็อ่านไม่ออก.. พูดไม่ได้ด้วย
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554
ศัพท์ slang American
วันนี้มีเพื่อนฝรั่งเพิ่งมาจากอเมริกา คุยกันเริ่มฟังไม่รู้เรื่องแระ! เพราะเขาใช้คำแสลงคุยเกือบ 50% ของประโยค วันนี้ขอนอกเรื่อง คั่นด้วยศัพท์ Slang นิดนึง เนื่องจากปัจจุบัน ศัพท์ slang ทุกภาษามันก็เกิดใหม่ทุกวัน จนบางทีเราก็ฟังแทบไม่ออก เลยขอเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับ Slang จาก web ต่างๆ มาลงให้ดูเผื่อดูหนังหรือฟังเพลงฝรั่งจะได้ไม่งงกัน... (ขอขอบคุณ blog http://gueey.spaces.live.com/blog/cns!A033363A0CB8F5EC!265.entry ด้วยค่ะ!)
รวบรวมศัพท์ american slang
Fruitcake = เป็นคำอุทานชนิดหนึ่งประมาณว่า โอ้ยตายแล้่ว!!!
How are you hanging? = how are you?
Cool = เจ๋ง
Oh shooot = คำสุภาพของ Oh shit
You are the man = แกเจ๋งว่ะ ( ใช้ได้กับทุกเพศนะคับ)
Buck = dollar
sub = แซนด์วิช (subway)
nerd = พวกเด็กเรียน
Jerk = พวกผู้ชายเลวๆ
Chick = ผู้หญิง
Chicflick = หนังแบบผู้หญิงๆชอบ
awesome = เจ๋ง
what the heck = อะไรว่ะ
freakin' = ประมาณแบบ...สุดๆ
Holy Cow = ใช้เป็นสุภาพ แทน Holy Shit
Dang = ใช้เป็นสุภาพ แทน Damn
Va Jay Jay, Virginia =ใช้เป็นสุภาพ แทน Vagina (Woman's secret part)
I'm gonna =I'm going to
Gotcha = ประมาณว่า got it อื้อ ตกลงไรประมาณนี้อ่ะน้อง
sick = นี่ใช้ได้แบบทั้งดีและไม่ดีเลยนะ ต้องดูรูปประโยคด้วย
bad ass = แปลว่าเจ๋ง หรือดี อะไรประมาณนีิ
asshole = ไอ่ทุเรส น่าขยะแขยงง
that's f*ckin' ..... = นั่นมัน .... โคตรรรเลย
hoe = กะหรี่
what are u up to? = ก้ประมาณว่า ทำไรมามั่ง
How are you hanging? = how are you?
Cool = เจ๋ง
Oh shooot = คำสุภาพของ Oh shit
You are the man = แกเจ๋งว่ะ ( ใช้ได้กับทุกเพศนะคับ)
Buck = dollar
sub = แซนด์วิช (subway)
nerd = พวกเด็กเรียน
Jerk = พวกผู้ชายเลวๆ
Chick = ผู้หญิง
Chicflick = หนังแบบผู้หญิงๆชอบ
awesome = เจ๋ง
what the heck = อะไรว่ะ
freakin' = ประมาณแบบ...สุดๆ
Holy Cow = ใช้เป็นสุภาพ แทน Holy Shit
Dang = ใช้เป็นสุภาพ แทน Damn
Va Jay Jay, Virginia =ใช้เป็นสุภาพ แทน Vagina (Woman's secret part)
I'm gonna =I'm going to
Gotcha = ประมาณว่า got it อื้อ ตกลงไรประมาณนี้อ่ะน้อง
sick = นี่ใช้ได้แบบทั้งดีและไม่ดีเลยนะ ต้องดูรูปประโยคด้วย
bad ass = แปลว่าเจ๋ง หรือดี อะไรประมาณนีิ
asshole = ไอ่ทุเรส น่าขยะแขยงง
that's f*ckin' ..... = นั่นมัน .... โคตรรรเลย
hoe = กะหรี่
what are u up to? = ก้ประมาณว่า ทำไรมามั่ง
porn = หนังโป๊ (55 คนชื่อ พรๆอ่ะ ระวังไว้เลย แถม ภาษาโปแลนมันแปลว่าโสเภนี)
pee = ฉี่
poo = shit!(แปลไทยเองเหอะ 55)
pee = ฉี่
poo = shit!(แปลไทยเองเหอะ 55)
holy crap = อธิบายไม่ถูกอ่ะ เหมือนเวลาเจออะไรทุเรศแล้วตกใจจะอุทานคำนี้
damn = เลว,ไอ้เหี้ย
son of bitch = ประมาณไอ้เหี้ยนั่นแหละ เหอๆ (โคดชอบเลยคำนี้ ไว้ด่าพวกผู้ชาย ><)
What the hell = อะไร เกิดอะไรขึ้น
you idiot = ไอ้โง่
screw = ถูกหลอก
bastard = ไว้ด่าพวกที่ทำตัวเลว หยาบคาย ประมาณนี้(มั้ง)
suck = แย่ ไม่ดี
geek = คุณคนแบบว่าพิเรนๆอ่ะ
jerk = คุณทึ่ม
buddy =เพื่อน เช่น what's up buddy?
bullshit = อุทานเมื่อไม่พอใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมากมาย
kinda = kind of
damn = เลว,ไอ้เหี้ย
son of bitch = ประมาณไอ้เหี้ยนั่นแหละ เหอๆ (โคดชอบเลยคำนี้ ไว้ด่าพวกผู้ชาย ><)
What the hell = อะไร เกิดอะไรขึ้น
you idiot = ไอ้โง่
screw = ถูกหลอก
bastard = ไว้ด่าพวกที่ทำตัวเลว หยาบคาย ประมาณนี้(มั้ง)
suck = แย่ ไม่ดี
geek = คุณคนแบบว่าพิเรนๆอ่ะ
jerk = คุณทึ่ม
buddy =เพื่อน เช่น what's up buddy?
bullshit = อุทานเมื่อไม่พอใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมากมาย
kinda = kind of
pissed = โกรธkick ass = น่าถูกใจ,เท่,เจ๋ง
Bull shit= ไร้สาระ,โซ
Horn dawg= ไอ้หื่น
Get laid = ได้(...Xxx...)
kick ..... ass= ปราบ......,กำจัด.....
watch out = ระวัง
check it out, check this out = มาดูนี่
aight=alright
tight= ดี
Bull shit= ไร้สาระ,โซ
Horn dawg= ไอ้หื่น
Get laid = ได้(...Xxx...)
kick ..... ass= ปราบ......,กำจัด.....
watch out = ระวัง
check it out, check this out = มาดูนี่
aight=alright
tight= ดี
im pissed = ชั้นถูกทัมให้อารมเสีย
piss off = อารมเสีย
fuck off = ไปไกลๆ แบบด่าให้ไปไกลๆ
perv/pervert = คนทะลึ่งๆ
slut = กะหรี่ (คำด่า)
go out = ประมานว่าเป็นแฟนกัน ไปเดทประมานเนี้ยะ ex. I go out with him.
hang out = ไปเที่ยวด้วยกัน แบบ we're hanging out at your place today.
freak out = ตกใจ
piss off = อารมเสีย
fuck off = ไปไกลๆ แบบด่าให้ไปไกลๆ
perv/pervert = คนทะลึ่งๆ
slut = กะหรี่ (คำด่า)
go out = ประมานว่าเป็นแฟนกัน ไปเดทประมานเนี้ยะ ex. I go out with him.
hang out = ไปเที่ยวด้วยกัน แบบ we're hanging out at your place today.
freak out = ตกใจ
dork = คนห่วยๆ
prep = พวกคุนหนู
jock = นักกีลา
whiz = พวกจีเนียส
fab = มาจาก fabulous- เจ๋ง
bomb/ tight = cool ไม่รุ้เหมือนกันรึเปล่านะ แต่เด็กเมืองพี่พุดบ่อยมาก ex. You're soo bomb.
hella = สุดยอด ex. This is hella cool
prep = พวกคุนหนู
jock = นักกีลา
whiz = พวกจีเนียส
fab = มาจาก fabulous- เจ๋ง
bomb/ tight = cool ไม่รุ้เหมือนกันรึเปล่านะ แต่เด็กเมืองพี่พุดบ่อยมาก ex. You're soo bomb.
hella = สุดยอด ex. This is hella cool
butt = ก้น
comfy = สะดวกสะบาย
crap = สิ่งไร้ค่า เช่น stop reading all those crap and start reading for your final exam.
dirt = เลว
dirty = ลามก เช่น dirty song, dirty movie
fart = ตด
fly = ยอมเยี่ยม ดีมาก เช่น you made me fly
goof, goofy = คนโง่
loser = ไอ้งั่ง
neat = เยี่ยม เจ๋ง
party animal = บุคคลที่ชอบงานเลี้ยง (โดนบ่อยๆ)
pissed off = ผิดหวัง
weed = กัญชา ๆ
zit = สิว
flip out = อารมณ์เสียแบบสุดๆ หัวเสีย
nasty = (ทางดี)-เ่ก่งมากๆ - เวลาเล่นกีฬาหรือดูกีฬาจะเจอบ่อยสุดๆ แบบว่า That guy is nasty.
(ทางไม่ดี) - หยะแหยง
Oh crap = คำอุทาน
Bullshit = โกหก,ตอแหล (อย่าไปพูดเด็ดขาด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใช้ BS)
I've got..., We've got...., She's got.... = มี...
dizzy = รู้สึกแบบมึนๆหัว
pass out = เป็นลม
pass the gas = ตด
dull = น่าเบื่อ
hang out =.........แปลว่าอะไรดี....นึกไม่ออก แต่ถ้าน้องไปเปิด dict มันจะแปลว่าการที่เราทำอะไรที่นึงนานๆ
go out with = ......เดทกับใครซักคน ( she's going out with him - เธอกำลังคบกับเขา(แบบเป็นแฟน))
full, rich = อิ่ม
ish = กว่าๆ(เวลา) ----- nine ish = 9 โมงกว่าๆ
punk ass = ไอ่สาดดดดด
joint = บุหรี่ยัดไส้
doop = เมากานดีกว่า
dollar baby = ศัพท์นี้ถ้าใช้แถวชิคาโกจะแปลว่า พวกโสเภณี อะไรประมาณนี้ ส่วนที่อื่นไม่รุ้นะ
high = แปลว่าเมากัญชา...
beep head = ตำรวจ
red light green light = แปลว่าผู้หญิงสำส่อนประมาณนี้
crap = สิ่งไร้ค่า เช่น stop reading all those crap and start reading for your final exam.
dirt = เลว
dirty = ลามก เช่น dirty song, dirty movie
fart = ตด
fly = ยอมเยี่ยม ดีมาก เช่น you made me fly
goof, goofy = คนโง่
loser = ไอ้งั่ง
neat = เยี่ยม เจ๋ง
party animal = บุคคลที่ชอบงานเลี้ยง (โดนบ่อยๆ)
pissed off = ผิดหวัง
weed = กัญชา ๆ
zit = สิว
flip out = อารมณ์เสียแบบสุดๆ หัวเสีย
nasty = (ทางดี)-เ่ก่งมากๆ - เวลาเล่นกีฬาหรือดูกีฬาจะเจอบ่อยสุดๆ แบบว่า That guy is nasty.
(ทางไม่ดี) - หยะแหยง
Oh crap = คำอุทาน
Bullshit = โกหก,ตอแหล (อย่าไปพูดเด็ดขาด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใช้ BS)
I've got..., We've got...., She's got.... = มี...
dizzy = รู้สึกแบบมึนๆหัว
pass out = เป็นลม
pass the gas = ตด
dull = น่าเบื่อ
hang out =.........แปลว่าอะไรดี....นึกไม่ออก แต่ถ้าน้องไปเปิด dict มันจะแปลว่าการที่เราทำอะไรที่นึงนานๆ
go out with = ......เดทกับใครซักคน ( she's going out with him - เธอกำลังคบกับเขา(แบบเป็นแฟน))
full, rich = อิ่ม
ish = กว่าๆ(เวลา) ----- nine ish = 9 โมงกว่าๆ
punk ass = ไอ่สาดดดดด
joint = บุหรี่ยัดไส้
doop = เมากานดีกว่า
dollar baby = ศัพท์นี้ถ้าใช้แถวชิคาโกจะแปลว่า พวกโสเภณี อะไรประมาณนี้ ส่วนที่อื่นไม่รุ้นะ
high = แปลว่าเมากัญชา...
beep head = ตำรวจ
red light green light = แปลว่าผู้หญิงสำส่อนประมาณนี้
what a loser = khee-pear
figured out = Solve the problem
hold on,just sec(second) = pap-nueang
make out = kissss
square! = loser
Ewwww = อิ้ววว แบบ อี๊
Yuck = ยัค ประมานว่า แหวะ nasty
Ouch, Ouchy = โอ้ยย เจ็บ
Jeeez.. = อันนี้แปลไม่ถูกอ่ะ แบบ โห โอ้ ว้าว ในทางตกใจ ตะลึง (ผู้รู้ช่วยแปลด้วยนะคะ)
Oh my, Oh my goodness, Oh my gosh = โอ้พระเจ้า แต่เค้าห้ามใช้ god ประมานนั้น
What the... = มาจาก what the f**k อ่ะแหละ
What the heck = มาจาก What the hell แบบ อะไรเนี้ย
WOW = ก้อ ว้าววว
Shoot = มาจาก shit แบบ อุ๊ย ทำของตก หรือ เห้ย แย่แล้ว
Oh man! = โธ่เอ้ย เชิงน่าเสียดาย
Ouch, Ouchy = โอ้ยย เจ็บ
bastard = ไอ้ลูกชู้
pussy = น่าตัวเมีย หรือ อวัยวะเพศหญิง
On cloud nine= happy
Howdy=hello
Let's the cat out = can't keep the secret
Comfy=comfort
You're betcha=you r welcome
You're bet=yes
Getcha =get what u said
Body =good friend
Bitchy =woman who is kind of making herself hot
Dork =stupid person
Papa =grandfather
Momma =grandmother
Cut the crap ! = อย่าเพ้อเจ้อน่าฃcrap/snag/dang/damn แปว่าโอ๊ย!ให้ตายเหอะ โถ่เว้ย!
freaking แปว่า เลว
Y'all = แปว่า ไง พวกนาย
nasty/gross = แปว่า ยี้ น่าขยะเเขยง
cool/rock!!! = แปว่า โคตรเจ๋งเลย
your pant is on fire = ไอ้โกหก น่าจะเคยได้ยินกันนะ Liar liar pant on fire
a-hole = as- hole
Redneck = พวกทำงานเกี่ยวกับ ฟาร์ม บ้านนอก
whoop your as- = เวลาโดน owned
how do you do = เป็นยังไงนะ ไม่ใช่ ทำยังไง เหมือน how are you?
let down = ผิดหวัง ที่เคยได้ยินก็ What a let down, don't let me down
chill out = ใจเย็นๆ พูดกับคนที่กำลังโกรธ
get a grip = get over it, pull yourself together
positive = แน่นอน, มั่นใจ you sure? I'm positive
Air head = โง่
freebie = free
powder room = ห้องน้ำ
screw up = ทำผิดพลาด
Hit = จีบ Go hit her ไปจีบเค้าสิ อย่าไปตบหน้าเค้าละ
Cut the crap out แรงพอสมควร แปลไทยประมาณ ไอ้ห่า เลิกเล่น/ทะเลาะ กันได้แล้ว ใช้เวลาให้ทุกคนหยุดทำ
Keep it Down low = รู้แล้วเหยียบไว้ , สำหรับผู้หญิงพูด Hush Hush okay?/keep it hush hush ถ้าง่ายๆก็ Just between you and me
Razzing = kidding
Cereal = serious
Yakky = talk a lot (pood mark)
dude = เอาไว้เรียกเพื่อน "s'up Dude!"
blah blah blah -บลา บลา บลา ใช้เหมือน .....something like that
gee = friend
wag = skip class haha ^^
lol---laugh out loud <<txt language>>
goof ball = พวกแปลกประหลาด ไม่เข้ากลุ่ม ไม่เข้าพวก
ถ้ามีเพิ่มเติมจะนำมาฝากอีกค่ะ!
figured out = Solve the problem
hold on,just sec(second) = pap-nueang
make out = kissss
square! = loser
Ewwww = อิ้ววว แบบ อี๊
Yuck = ยัค ประมานว่า แหวะ nasty
Ouch, Ouchy = โอ้ยย เจ็บ
Jeeez.. = อันนี้แปลไม่ถูกอ่ะ แบบ โห โอ้ ว้าว ในทางตกใจ ตะลึง (ผู้รู้ช่วยแปลด้วยนะคะ)
Oh my, Oh my goodness, Oh my gosh = โอ้พระเจ้า แต่เค้าห้ามใช้ god ประมานนั้น
What the... = มาจาก what the f**k อ่ะแหละ
What the heck = มาจาก What the hell แบบ อะไรเนี้ย
WOW = ก้อ ว้าววว
Shoot = มาจาก shit แบบ อุ๊ย ทำของตก หรือ เห้ย แย่แล้ว
Oh man! = โธ่เอ้ย เชิงน่าเสียดาย
Ouch, Ouchy = โอ้ยย เจ็บ
bastard = ไอ้ลูกชู้
pussy = น่าตัวเมีย หรือ อวัยวะเพศหญิง
On cloud nine= happy
Howdy=hello
Let's the cat out = can't keep the secret
Comfy=comfort
You're betcha=you r welcome
You're bet=yes
Getcha =get what u said
Body =good friend
Bitchy =woman who is kind of making herself hot
Dork =stupid person
Papa =grandfather
Momma =grandmother
Cut the crap ! = อย่าเพ้อเจ้อน่าฃcrap/snag/dang/damn แปว่าโอ๊ย!ให้ตายเหอะ โถ่เว้ย!
freaking แปว่า เลว
Y'all = แปว่า ไง พวกนาย
nasty/gross = แปว่า ยี้ น่าขยะเเขยง
cool/rock!!! = แปว่า โคตรเจ๋งเลย
your pant is on fire = ไอ้โกหก น่าจะเคยได้ยินกันนะ Liar liar pant on fire
a-hole = as- hole
Redneck = พวกทำงานเกี่ยวกับ ฟาร์ม บ้านนอก
whoop your as- = เวลาโดน owned
how do you do = เป็นยังไงนะ ไม่ใช่ ทำยังไง เหมือน how are you?
let down = ผิดหวัง ที่เคยได้ยินก็ What a let down, don't let me down
chill out = ใจเย็นๆ พูดกับคนที่กำลังโกรธ
get a grip = get over it, pull yourself together
positive = แน่นอน, มั่นใจ you sure? I'm positive
Air head = โง่
freebie = free
powder room = ห้องน้ำ
screw up = ทำผิดพลาด
Hit = จีบ Go hit her ไปจีบเค้าสิ อย่าไปตบหน้าเค้าละ
Cut the crap out แรงพอสมควร แปลไทยประมาณ ไอ้ห่า เลิกเล่น/ทะเลาะ กันได้แล้ว ใช้เวลาให้ทุกคนหยุดทำ
Keep it Down low = รู้แล้วเหยียบไว้ , สำหรับผู้หญิงพูด Hush Hush okay?/keep it hush hush ถ้าง่ายๆก็ Just between you and me
Razzing = kidding
Cereal = serious
Yakky = talk a lot (pood mark)
dude = เอาไว้เรียกเพื่อน "s'up Dude!"
blah blah blah -บลา บลา บลา ใช้เหมือน .....something like that
gee = friend
wag = skip class haha ^^
lol---laugh out loud <<txt language>>
goof ball = พวกแปลกประหลาด ไม่เข้ากลุ่ม ไม่เข้าพวก
วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
การดูแลผู้ป่วยเด็กหัวใจรั่ว (2)
2. อาหาร สำหรับเด็กหัวใจรั่ว
จากที่ได้กล่าวมาในครั้งก่อน เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพฟัน ของเด็กที่เป็นโรคหัวใจรั่วให้มีดีอยู่เสมอ ดังนั้น ลูกอม ขนมขบเคี้ยวต่างๆ จึงไม่ควรหัดให้เด็กรับประทาน
ขนมถุงกรอบๆ ต่างๆ มักใส่สารกันบูด ผงชูรส และ มีรสเค็ม อาหารที่มีรสเค็มจะทำให้หัวใจของผู้ป่วยทำงานหนัก เนื่องจากอาหารเค็มนั้นจะเพิ่มความดันโลหิต อธิบายง่ายๆ การที่ผู้ป่วยมีหัวใจรั่ว ก็เปรียบเหมือนปั๊มน้ำที่เกือบพัง เครื่องหนึ่ง หากปั๊มน้ำทำงานหนัก ก็จะเร่งให้เครื่องเสียเร็วมากขึ้น
อาหารใดๆ ก็ตามที่แพทย์ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจรับประทาน เด็กที่เป็นหัวใจรั่วก็ไม่ควรรับประทานเช่นกัน
อาหารเสริมต่างๆ ควรมีให้เด็กรับประทานเสมอ โดยเฉพาะโปรตีน สำหรับเด็กที่มีหัวใจรั่วเล็กน้อย โปรตีนก็อาจช่วยสร้างกล้ามเนื้อหัวใจขึ้นมาปิดรอยรั่ว และทำให้เด็กหายจากโรคนี้ได้
ในกรณีที่เด็กมีอาการของโรคค่อนข้างมาก คือตัวเล็ก แคระแกรน ตัวเขียว อาหารเสริมต่างๆ ยิ่งมีความจำเป็นมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น โปรตีน และวิตามินต่างๆ (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้)
พ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน ต่างก็มีความหวังที่บุตรหลานของท่านจะหายป่วยจากโรคนี้ แม้บางครั้งอาจเหลือน้อยเต็มทนสำหรับผู้ป่วยในบางราย แต่การที่เราได้ทำสิ่่งที่ดีที่สุดให้ลูกของตนเอง ก็ยังดีกว่าที่จะให้เขาเสียชีวิตไป แล้วมาคร่ำครวญในภายหลังว่ารู้อย่างนี้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้ลูกดีกว่า สำหรับตัวผู้เขียนนั้น ก็เป็นเหมือนพ่อแม่ทั่วไปคนหนึ่ง ที่มีความหวังที่จะให้ลูกได้มีชีวิตอยู่กับเรานานที่สุด ซึ่งหมอก็ไม่เคยให้ความหวังอะไรตั้งแต่วันแรกที่ลูกลืมตาดูโลกแล้ว ว่า "น้องมีสิทธิ์จากเราไปทุกวินาทีต่อจากนี้ ขอให้คุณแม่ทำใจ" ซึ่งผู้เขียนนั้น สามารถเลี้ยงลูกให้มีชีวิตอยู่ได้ถึงสองปีครึ่ง โดยสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ฉันได้ดูแลลูกอันเป็นที่รักอย่างดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ลูกน้อยจะจากไป แต่ฉันไม่เคยเสียใจเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันได้ทุ่มเทให้เขา ทั้งแรงกาย แรงใจ รวมทั้งทุกสิ่งที่ดีที่สุด ที่พึงจะหาให้ลูกได้..
3. การออกกำลังกาย
ผู้ป่วยหัวใจรั่วบางราย มีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ง่าย ในกรณีที่เด็กมีอาการของโรคเล็กน้อย การได้รับการออกกำลังกายเบาๆ ก็สามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้
กีฬาหนัก เช่น ว่ายน้ำ และการวิ่ง ควรงดเว้น จนกว่าแพทย์ผู้รักษาจะเห็นควรให้เล่นได้ สภาวะแวดล้อมรอบตัวเด็ก ควรพยายามทำให้เป็นธรรมชาติ ในกรณีที่เด็กมีอาการไม่รุนแรง เด็กจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมรอบตัว ทำให้สามารถอาศัยอยู่อย่างคนปรกติได้ อย่าปล่อยให้บุตรหลานวิ่งเล่น หรือ ออกกำลังกายเพียงลำพัง หากเล่นที่โรงเรียน กรุณากำชับอาจารย์ผู้สอน ว่าเด็กเป็นหัวใจรั่วด้วย เพื่อให้ครูระมัดระวังมากขึ้น การติดเบอร์โทรติดต่อผู้ปกครองไว้ในกระเป๋าเสื้อเด็ก และรายละเอียดเกี่ยวกับโรงพยาบาล ผู้ปกครองจะต้องทำ เพราะหากเด็กช็อคระหว่างอยู่ที่โรงเรียน หรือที่อื่นๆ จะสามารถติดต่อกลับได้ทันเวลา
4. ที่อยู่อาศัย
ดังที่กล่าวในข้างต้นแล้ว ว่าเด็กที่มีอาการเพียงเล็กน้อย จะสามารถปรับตัวเข้ากับที่อยู่อาศัยได้เอง สิ่งสำคัญหลักสำหรับเด็กหัวใจรั่ว เรื่องที่อยู่อาศัย คือ อากาศโปร่ง โล่ง สบาย ผู้เขียนจะขออธิบายอีกครั้งเรื่องการทำงานของหัวใจและปอดเด็ก เนื่องจากหัวใจเด็กสูบฉีดโลหิตได้ไม่เต็มที่ รวมทั้งบางกรณีที่เลือดลัดวงจร จากเลือดเสีย ปนกันกับเลือดดี และการปั๊มเลือดจ่ากปอดเข้าสู่ร่างกายไม่ทัน เด็กจะเกิดสภาวะน้ำท่วมปอด หรือเรียกว่าปอดบวม ปอดอักเสบ ซึ่งเป็นโรคคู่กันกับโรคหัวใจรั่ว เด็กจึงต้องได้รับอากาศที่โปร่ง สะอาด และถ่ายเทได้สะดวก แต่ในกรณีที่เด็กมีอาการมาก คือเด็ก spell บ่อย หากผู้ปกครองมีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี การติดเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ และถังออกซิเจนติดบ้านไว้ ก็สามารถทำได้ เครื่องนอนต่างๆ ควรดูแลไม่ให้มีฝุ่นสกปรก ควรเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก
จากที่ได้กล่าวมาในครั้งก่อน เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพฟัน ของเด็กที่เป็นโรคหัวใจรั่วให้มีดีอยู่เสมอ ดังนั้น ลูกอม ขนมขบเคี้ยวต่างๆ จึงไม่ควรหัดให้เด็กรับประทาน
ขนมถุงกรอบๆ ต่างๆ มักใส่สารกันบูด ผงชูรส และ มีรสเค็ม อาหารที่มีรสเค็มจะทำให้หัวใจของผู้ป่วยทำงานหนัก เนื่องจากอาหารเค็มนั้นจะเพิ่มความดันโลหิต อธิบายง่ายๆ การที่ผู้ป่วยมีหัวใจรั่ว ก็เปรียบเหมือนปั๊มน้ำที่เกือบพัง เครื่องหนึ่ง หากปั๊มน้ำทำงานหนัก ก็จะเร่งให้เครื่องเสียเร็วมากขึ้น
อาหารใดๆ ก็ตามที่แพทย์ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจรับประทาน เด็กที่เป็นหัวใจรั่วก็ไม่ควรรับประทานเช่นกัน
อาหารเสริมต่างๆ ควรมีให้เด็กรับประทานเสมอ โดยเฉพาะโปรตีน สำหรับเด็กที่มีหัวใจรั่วเล็กน้อย โปรตีนก็อาจช่วยสร้างกล้ามเนื้อหัวใจขึ้นมาปิดรอยรั่ว และทำให้เด็กหายจากโรคนี้ได้
ในกรณีที่เด็กมีอาการของโรคค่อนข้างมาก คือตัวเล็ก แคระแกรน ตัวเขียว อาหารเสริมต่างๆ ยิ่งมีความจำเป็นมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น โปรตีน และวิตามินต่างๆ (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้)
พ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน ต่างก็มีความหวังที่บุตรหลานของท่านจะหายป่วยจากโรคนี้ แม้บางครั้งอาจเหลือน้อยเต็มทนสำหรับผู้ป่วยในบางราย แต่การที่เราได้ทำสิ่่งที่ดีที่สุดให้ลูกของตนเอง ก็ยังดีกว่าที่จะให้เขาเสียชีวิตไป แล้วมาคร่ำครวญในภายหลังว่ารู้อย่างนี้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้ลูกดีกว่า สำหรับตัวผู้เขียนนั้น ก็เป็นเหมือนพ่อแม่ทั่วไปคนหนึ่ง ที่มีความหวังที่จะให้ลูกได้มีชีวิตอยู่กับเรานานที่สุด ซึ่งหมอก็ไม่เคยให้ความหวังอะไรตั้งแต่วันแรกที่ลูกลืมตาดูโลกแล้ว ว่า "น้องมีสิทธิ์จากเราไปทุกวินาทีต่อจากนี้ ขอให้คุณแม่ทำใจ" ซึ่งผู้เขียนนั้น สามารถเลี้ยงลูกให้มีชีวิตอยู่ได้ถึงสองปีครึ่ง โดยสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ฉันได้ดูแลลูกอันเป็นที่รักอย่างดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ลูกน้อยจะจากไป แต่ฉันไม่เคยเสียใจเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันได้ทุ่มเทให้เขา ทั้งแรงกาย แรงใจ รวมทั้งทุกสิ่งที่ดีที่สุด ที่พึงจะหาให้ลูกได้..
3. การออกกำลังกาย
ผู้ป่วยหัวใจรั่วบางราย มีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ง่าย ในกรณีที่เด็กมีอาการของโรคเล็กน้อย การได้รับการออกกำลังกายเบาๆ ก็สามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้
กีฬาหนัก เช่น ว่ายน้ำ และการวิ่ง ควรงดเว้น จนกว่าแพทย์ผู้รักษาจะเห็นควรให้เล่นได้ สภาวะแวดล้อมรอบตัวเด็ก ควรพยายามทำให้เป็นธรรมชาติ ในกรณีที่เด็กมีอาการไม่รุนแรง เด็กจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมรอบตัว ทำให้สามารถอาศัยอยู่อย่างคนปรกติได้ อย่าปล่อยให้บุตรหลานวิ่งเล่น หรือ ออกกำลังกายเพียงลำพัง หากเล่นที่โรงเรียน กรุณากำชับอาจารย์ผู้สอน ว่าเด็กเป็นหัวใจรั่วด้วย เพื่อให้ครูระมัดระวังมากขึ้น การติดเบอร์โทรติดต่อผู้ปกครองไว้ในกระเป๋าเสื้อเด็ก และรายละเอียดเกี่ยวกับโรงพยาบาล ผู้ปกครองจะต้องทำ เพราะหากเด็กช็อคระหว่างอยู่ที่โรงเรียน หรือที่อื่นๆ จะสามารถติดต่อกลับได้ทันเวลา
4. ที่อยู่อาศัย
ดังที่กล่าวในข้างต้นแล้ว ว่าเด็กที่มีอาการเพียงเล็กน้อย จะสามารถปรับตัวเข้ากับที่อยู่อาศัยได้เอง สิ่งสำคัญหลักสำหรับเด็กหัวใจรั่ว เรื่องที่อยู่อาศัย คือ อากาศโปร่ง โล่ง สบาย ผู้เขียนจะขออธิบายอีกครั้งเรื่องการทำงานของหัวใจและปอดเด็ก เนื่องจากหัวใจเด็กสูบฉีดโลหิตได้ไม่เต็มที่ รวมทั้งบางกรณีที่เลือดลัดวงจร จากเลือดเสีย ปนกันกับเลือดดี และการปั๊มเลือดจ่ากปอดเข้าสู่ร่างกายไม่ทัน เด็กจะเกิดสภาวะน้ำท่วมปอด หรือเรียกว่าปอดบวม ปอดอักเสบ ซึ่งเป็นโรคคู่กันกับโรคหัวใจรั่ว เด็กจึงต้องได้รับอากาศที่โปร่ง สะอาด และถ่ายเทได้สะดวก แต่ในกรณีที่เด็กมีอาการมาก คือเด็ก spell บ่อย หากผู้ปกครองมีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี การติดเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ และถังออกซิเจนติดบ้านไว้ ก็สามารถทำได้ เครื่องนอนต่างๆ ควรดูแลไม่ให้มีฝุ่นสกปรก ควรเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก
ป้ายกำกับ:
การออกกำลังกาย,
ดูแลเด็กหัวใจรั่ว อาหาร,
ที่อยู่อาศัย
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554
การดูแลผู้ป่วยเด็กหัวใจรั่ว (1)
ขอเกริ่นในข้างต้นก่อนว่าบทความที่เขียนขึ้นนี้ มิใช่บทความทางวิชาการ เป็นเพียงประสบการณ์ตรงและความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งคำแนะนำต่างๆ ที่ถูกต้องควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นหลัก และ หากมีความเห็นไม่ตรงกันกับบทความนี้ ทางผู้เขียนใคร่ขอให้ท่านนำข้อสงสัยไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
เนื่องจากในประเทศไทย ยังไม่มีบทความใดที่กล่าวถึงรายละเอียด ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยหัวใจรั่วโดยตรง ผู้เขียนในฐานะที่เคยเป็น"แม่" ของเด็กที่เป็นโรคนี้ จึงขอนำความรู้ที่ได้ออกเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานแด่คุณพ่อ-คุณแม่ ผู้ปกครองท่านต่างๆ ที่มีข้อสงสัยในการดูแลเด็กหัวใจรั่ว โดยผู้เขียน ได้ศึกษาหาความรู้ต่างๆ จากทั้งทางตำราไทย และต่างประเทศ รวมทั้ง Discuzz กับผู้ปกครองหลายท่านระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล จนได้ข้อสรุปบางประการเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย ในมุมมองของพ่อ-แม่ ดังนี้
1. เมื่อทราบว่าลูกเป็นหัวใจรั่วแล้ว เราจะต้องทำอย่างไร?
เป็นคำถามที่ Basic ที่สุด ที่คุณหมอโรคหัวใจต้องตอบทุกครั้ง ที่ประกาศผล Echo ต่อหน้าผู้ปกครอง สิ่งแรกที่พ่อแม่ผู้เอาใจใส่ต่อลูก ต้องทำคือ ศึกษารายละเอียดคร่าวๆ ของโรคเพื่อทำความเข้าใจอาการของลูกก่อน ขอให้ตั้งใจฟังอาการต่างๆ ที่ทางแพทย์ได้อธิบายให้ดี เช่น เด็กจะเหนื่อยหอบง่าย, หงุดหงิด, ตัวแคระแกร็น เจริญเติบโตช้า ฯลฯ อาจเป็นความรู้ใหม่สำหรับพ่อแม่บางคน ในเว็บต่างๆ มีรายละเอียดเรื่องหัวใจรั่วค่อนข้างเป็นทางการ และเป็นภาษาแพทย์ ท่านอ่านแล้วอาจจะงง ถึงงงมากสำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนทางวิทยาศาสตร์ หมอจะอธิบายอาการของโรค และ การดูแลเบื้องต้น เช่นอาหารการกิน แนวทางการรักษา
แต่คำถามที่พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักต้องการคำตอบ คือนับจากวันนี้ฉันต้องดูแลลูกต่างไปจากเดิมอย่างไร? หมอจะไม่สามารถอธิบายได้ เพราะหมอไม่เคยมีลูกป่วยเป็นหัวใจรั่ว ดังนั้น คำตอบที่ได้อาจไม่โดนใจนัก! หมอจะพูดว่า ก็ทำเหมือนที่เคย แต่ให้ดูแลเรื่องอาหารการกินหน่อย... อยากจะบอกว่าสำหรับเด็กที่เป็นหัวใจรั่วค่อนข้างรุนแรง มันไม่ใช่ ดังนั้นผู้เขียนจะพยายามอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียดที่สุด ซึ่งอาจไม่ครบถ้วนทุกหัวข้อภายในเร็ววัน หากผู้ปกครองท่านใดใจร้อนหรือ อยากได้คำแนะนำแบบด่วนพิเศษ สามารถฝากคำถามไว้ก่อนได้ค่ะ
สิ่งแรกตั้งแต่ตื่นนอนมา... ทันทีที่รู้ว่าลูกป่วยเป็นโรคนี้คือ ปลูกฝังให้ลูกมีนิสัยรักการแปรงฟัน เด็กหัวใจรั่ว จะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่าย "ฟัน" เป็นปัจจัยสำคัญของการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะหากเด็กฟันผุ เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคต่างๆในปาก จะเข้าสู่กระแสเลือดทางโพรงประสาทฟัน ทำให้เด็กติดเชื้อและ เสียชีวิตได้
วิธีการคือ หากเด็กยังไม่มีฟัน ก็ยืนแปรงฟันให้ลูกดู ให้ลูกถือแปรงสีฟัน แปรงฟันด้วยอาการร่าเริงและร้องเพลงให้ลูกฟังขณะแปรงฟัน หากเด็กเล็กประมาณ 6-7 เดือน จะมีแปรงนวดเหงือกแบบไม่มีขนแปรงขาย คุณให้เขาหัดถือแปรงสีฟัน หากเขาเอาเข้าปาก กรุณาอย่าห้าม ให้เขาอมแปรงไว้เพื่อให้คุ้นเคย แล้วคุณช่วยเอามือจับอย่าให้กระแทกปากเท่านั้น เด็กจะไม่กลัวแปรงสีฟัน เพราะถ้าคุณไปบังคับโดยเริ่มให้ลูกหัดแปรงฟันตอน 2 ขวบ เขาจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะคุณเคยห้ามเขา เมื่อตอนอายุ 7 เดือนแล้ว เด็กจะไม่เข้าใจว่า ไอ้สิ่งของที่คุณเคยห้ามเขาเอาเข้าปาก มาบัดนี้ จะมายัดใส่ปากฉันเพื่ออะไร? (วิธีนี้ใช้ได้กับเด็กทั่วไปด้วยค่ะ)
สิ่งพิเศษสิ่งแรกสำหรับเด็กหัวใจรั่วที่ต่างจากเด็กธรรมดาทั่วไปคือ พ่อแม่จะพาเด็กไปหาหมอฟันเองไม่ได้ ต้องปรึกษาแพทย์โรคหัวใจก่อน ดังนั้น วิธีป้องกันคือ สอนให้ลูกรักการแปรงฟัน อย่าให้ลูกฟันผุ!
เนื่องจากในประเทศไทย ยังไม่มีบทความใดที่กล่าวถึงรายละเอียด ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยหัวใจรั่วโดยตรง ผู้เขียนในฐานะที่เคยเป็น"แม่" ของเด็กที่เป็นโรคนี้ จึงขอนำความรู้ที่ได้ออกเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานแด่คุณพ่อ-คุณแม่ ผู้ปกครองท่านต่างๆ ที่มีข้อสงสัยในการดูแลเด็กหัวใจรั่ว โดยผู้เขียน ได้ศึกษาหาความรู้ต่างๆ จากทั้งทางตำราไทย และต่างประเทศ รวมทั้ง Discuzz กับผู้ปกครองหลายท่านระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล จนได้ข้อสรุปบางประการเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย ในมุมมองของพ่อ-แม่ ดังนี้
1. เมื่อทราบว่าลูกเป็นหัวใจรั่วแล้ว เราจะต้องทำอย่างไร?
เป็นคำถามที่ Basic ที่สุด ที่คุณหมอโรคหัวใจต้องตอบทุกครั้ง ที่ประกาศผล Echo ต่อหน้าผู้ปกครอง สิ่งแรกที่พ่อแม่ผู้เอาใจใส่ต่อลูก ต้องทำคือ ศึกษารายละเอียดคร่าวๆ ของโรคเพื่อทำความเข้าใจอาการของลูกก่อน ขอให้ตั้งใจฟังอาการต่างๆ ที่ทางแพทย์ได้อธิบายให้ดี เช่น เด็กจะเหนื่อยหอบง่าย, หงุดหงิด, ตัวแคระแกร็น เจริญเติบโตช้า ฯลฯ อาจเป็นความรู้ใหม่สำหรับพ่อแม่บางคน ในเว็บต่างๆ มีรายละเอียดเรื่องหัวใจรั่วค่อนข้างเป็นทางการ และเป็นภาษาแพทย์ ท่านอ่านแล้วอาจจะงง ถึงงงมากสำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนทางวิทยาศาสตร์ หมอจะอธิบายอาการของโรค และ การดูแลเบื้องต้น เช่นอาหารการกิน แนวทางการรักษา
แต่คำถามที่พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักต้องการคำตอบ คือนับจากวันนี้ฉันต้องดูแลลูกต่างไปจากเดิมอย่างไร? หมอจะไม่สามารถอธิบายได้ เพราะหมอไม่เคยมีลูกป่วยเป็นหัวใจรั่ว ดังนั้น คำตอบที่ได้อาจไม่โดนใจนัก! หมอจะพูดว่า ก็ทำเหมือนที่เคย แต่ให้ดูแลเรื่องอาหารการกินหน่อย... อยากจะบอกว่าสำหรับเด็กที่เป็นหัวใจรั่วค่อนข้างรุนแรง มันไม่ใช่ ดังนั้นผู้เขียนจะพยายามอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียดที่สุด ซึ่งอาจไม่ครบถ้วนทุกหัวข้อภายในเร็ววัน หากผู้ปกครองท่านใดใจร้อนหรือ อยากได้คำแนะนำแบบด่วนพิเศษ สามารถฝากคำถามไว้ก่อนได้ค่ะ
สิ่งแรกตั้งแต่ตื่นนอนมา... ทันทีที่รู้ว่าลูกป่วยเป็นโรคนี้คือ ปลูกฝังให้ลูกมีนิสัยรักการแปรงฟัน เด็กหัวใจรั่ว จะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่าย "ฟัน" เป็นปัจจัยสำคัญของการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะหากเด็กฟันผุ เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคต่างๆในปาก จะเข้าสู่กระแสเลือดทางโพรงประสาทฟัน ทำให้เด็กติดเชื้อและ เสียชีวิตได้
วิธีการคือ หากเด็กยังไม่มีฟัน ก็ยืนแปรงฟันให้ลูกดู ให้ลูกถือแปรงสีฟัน แปรงฟันด้วยอาการร่าเริงและร้องเพลงให้ลูกฟังขณะแปรงฟัน หากเด็กเล็กประมาณ 6-7 เดือน จะมีแปรงนวดเหงือกแบบไม่มีขนแปรงขาย คุณให้เขาหัดถือแปรงสีฟัน หากเขาเอาเข้าปาก กรุณาอย่าห้าม ให้เขาอมแปรงไว้เพื่อให้คุ้นเคย แล้วคุณช่วยเอามือจับอย่าให้กระแทกปากเท่านั้น เด็กจะไม่กลัวแปรงสีฟัน เพราะถ้าคุณไปบังคับโดยเริ่มให้ลูกหัดแปรงฟันตอน 2 ขวบ เขาจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะคุณเคยห้ามเขา เมื่อตอนอายุ 7 เดือนแล้ว เด็กจะไม่เข้าใจว่า ไอ้สิ่งของที่คุณเคยห้ามเขาเอาเข้าปาก มาบัดนี้ จะมายัดใส่ปากฉันเพื่ออะไร? (วิธีนี้ใช้ได้กับเด็กทั่วไปด้วยค่ะ)
สิ่งพิเศษสิ่งแรกสำหรับเด็กหัวใจรั่วที่ต่างจากเด็กธรรมดาทั่วไปคือ พ่อแม่จะพาเด็กไปหาหมอฟันเองไม่ได้ ต้องปรึกษาแพทย์โรคหัวใจก่อน ดังนั้น วิธีป้องกันคือ สอนให้ลูกรักการแปรงฟัน อย่าให้ลูกฟันผุ!
วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554
โรคหัวใจรั่วในเด็กเล็ก
โรคหัวใจรั่ว หรือ ตามหลักวิชาการแล้วเรียก โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease) ในปัจจุบัน เป็นโรคที่มีสถิติสูงขึ้นมากในประเทศไทย เป็นโรคที่หาสาเหตุได้ไม่ชัดเจน บ้างว่าพันธุกรรม หรือ ความผิดปรกติในระหว่างเดือนแรกๆ ของการตั้งครรภ์ มีเป็นโรคนี้ทั้งครอบครัวทีอาศัยอยู่ในเมือง และชนบทห่างไกล และมีทั้งพันธุกรรม รวมถึงครอบครัวที่ไม่มีประวัติทางพันธุกรรมเรื่องโรคหัวใจรั่วมาก่อน แต่ผลตรวจโครโมโซม อาจระบุได้ว่าโครโมโซมของผู้ป่วยอาจไม่สมบูรณ์ในบางส่วน
อาการของโรคข้างต้น อาจปรากฏชัดหรือ ไม่ชัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคที่เป็น กล่าวคือ ถ้ามีอาการค่อนข้างรุนแรง ผู้ป่วยจะมีลักษณะทางกายภาพที่เห็นได้ชัดคือ ปากเป็นสีม่วง ตัวเขียวคล้ำ แคระแกร็น เจริญเติบโตช้า ปลายนิ้วเป็นปุ่มปม คล้ายไม้กลอง มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ขี้ร้อน ขี้หงุดหงิด
สาเหตุจากการที่โลหิตหมุนเวียนในร่างกายไม่เป็นระบบ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการกระวนกระวาย เหงื่อออกตามฝ่ามือ และเท้า หายใจติดขัด หากมีอาการรุนแรง โดยเลือดดำปนอยู่ในหลอดเลือดแดงในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ผู้ป่วยจะมีอาการชักเกร็ง ตัวแข็ง หรือ ตัวอ่อนปวกเปียกหมดสติไป โดยไม่กำหนดเวลา ว่าจะเป็นช่วงใด การออกกำลังกายอย่างมาก หรือ การอยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีอาการชักได้ง่าย ภาษาแพทย์ เรียกอาการนี้ว่าสเปล (spell)
หากผู้ป่วยมีอาการ spell แล้ว จะต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เนื่องจากเป็นสัญญาณอันตราย เตือนให้ทราบว่าผู้ป่วยจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่อีกได้นาน หากไม่เข้ารับการผ่าตัดหัวใจ
วิธีการดูผลผู้ป่วยโรคหัวใจรั่วเบื้องต้นในทุกอาการ ทั้งแบบ ASD, VSD, PDA, TOF, AS, PS, COA ทางพ่อแม่ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรคนี้เสียก่อนว่า บุตรหลานของท่านป่วยในลักษณะใด มีอาการของโรคมากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้เข้าใจระบบการทำงานของหัวใจเด็ก และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นให้เด็กมีอาการของโรคมากขึ้น ในผู้ปกครองรายที่มีฐานะค่อนข้างดี สามารถซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน หรือถังออกซิเจนไว้ให้ผู้ป่วยใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้นได้ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรปรับห้องนอนของบุตรหลานที่เป็นโรคนี้ โดยการทำห้องนอน และที่อยู่อาศัยให้สะอาด เพื่อให้เด็กปลอดการติดเชื้อ เด็กที่เป็นหัวใจรั่ว จะเป็นปอดบวม หรือปอดอักเสบได้ง่าย เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดโลหิตได้ทัน ทำให้น้ำท่วมปอดได้ง่าย การหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าร่างกายมาก จะทำให้เด็กหายใจติดขัด ประกอบกับออกซิเจนที่มีอยู่ในเลือดน้อย จะทำให้เด็กรู้สึกอึดอัด ขี้ร้อน ขี้หงุดหงิด เนื่องจากไม่สบายตัว ผู้ปกครองอาจติดถังออกซิเจนในห้องนอน เพื่อช่วยเด็กให้หายใจสะดวกเวลานอน, ติดเครื่องฟอกอากาศเพื่อกรองฝุ่นละออง รวมทั้งเครื่องปรับอากาศได้ หากเด็กมีอาการค่อนข้างรุนแรง นอกจากนั้นปัจจัยเสริมเรื่องอาหารการกินก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ เมื่อในหลอดเลือดแดงมีเลือดเสียปนอยู่มาก ร่างกายเด็กจึงเจริญเติบโตช้า รวมทั้งพัฒนาการก็จะช้า แต่เด็กจะไม่ปัญญาอ่อนเพราะเป็นคนละโรคกัน ผู้ปกครองควรหาอาหารเสริมให้บุตรหลานเพิ่มเติม จากปรกติ เด็กจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งบางครั้งในรายที่มีอาการหัวใจรั่วเพียงเล็กน้อย ร่างกายอาจสร้างกล้ามเนื้อมาปิดรอยรั่ว ทำให้เด็กหายจากโรคได้
อาหารต่างๆ ที่มีรสเค็ม หรืออาหารมันควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กรับประทานมากเกินไป ควรทำอาหารให้มีรสค่อนข้างจืด เพื่อช่วยไม่ให้หัวใจเด็กทำงานหนัก การออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ อาจทำให้เด็กหัวใจวายเฉียบพลันได้ ผู้ปกครองควรเรียนรู้เรื่องของการปฐมพยาบาล เมื่อผู้ป่วยหยุดหายใจ เพราะทุกวินาทีมีค่ามากในการช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคนี้ หากส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีการปฐมพยาบาลไประหว่างทางนั้น จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้นผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ตลอดเวลา ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อเช็คอาการของโรคและขอคำแนะนำจากแพทย์ รวมทั้งหาแนวทางในการรักษาโดยตลอด เนื่องจากโรคนี้เป็นอันตราย โดยตรงถึงชีวิตเด็ก ไม่ใช่โรคปวดหัวตัวร้อนที่สามารถรักษาหายได้เองในกรณีเด็กมีอาการมาก หากแพทย์แนะนำให้ผ่าตัดหัวใจได้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย หรือในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถผ่าตัดได้ ผู้ปกครองสามารถยื้อชีวิตเด็กให้ยืนยาวได้ด้วยการเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเด็ก ซึ่งจะอธิบายให้ทราบอย่างละเอียด ในหัวข้อถัดไป
อาการของโรคข้างต้น อาจปรากฏชัดหรือ ไม่ชัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคที่เป็น กล่าวคือ ถ้ามีอาการค่อนข้างรุนแรง ผู้ป่วยจะมีลักษณะทางกายภาพที่เห็นได้ชัดคือ ปากเป็นสีม่วง ตัวเขียวคล้ำ แคระแกร็น เจริญเติบโตช้า ปลายนิ้วเป็นปุ่มปม คล้ายไม้กลอง มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ขี้ร้อน ขี้หงุดหงิด
สาเหตุจากการที่โลหิตหมุนเวียนในร่างกายไม่เป็นระบบ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการกระวนกระวาย เหงื่อออกตามฝ่ามือ และเท้า หายใจติดขัด หากมีอาการรุนแรง โดยเลือดดำปนอยู่ในหลอดเลือดแดงในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ผู้ป่วยจะมีอาการชักเกร็ง ตัวแข็ง หรือ ตัวอ่อนปวกเปียกหมดสติไป โดยไม่กำหนดเวลา ว่าจะเป็นช่วงใด การออกกำลังกายอย่างมาก หรือ การอยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีอาการชักได้ง่าย ภาษาแพทย์ เรียกอาการนี้ว่าสเปล (spell)
หากผู้ป่วยมีอาการ spell แล้ว จะต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เนื่องจากเป็นสัญญาณอันตราย เตือนให้ทราบว่าผู้ป่วยจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่อีกได้นาน หากไม่เข้ารับการผ่าตัดหัวใจ
วิธีการดูผลผู้ป่วยโรคหัวใจรั่วเบื้องต้นในทุกอาการ ทั้งแบบ ASD, VSD, PDA, TOF, AS, PS, COA ทางพ่อแม่ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรคนี้เสียก่อนว่า บุตรหลานของท่านป่วยในลักษณะใด มีอาการของโรคมากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้เข้าใจระบบการทำงานของหัวใจเด็ก และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นให้เด็กมีอาการของโรคมากขึ้น ในผู้ปกครองรายที่มีฐานะค่อนข้างดี สามารถซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน หรือถังออกซิเจนไว้ให้ผู้ป่วยใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้นได้ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรปรับห้องนอนของบุตรหลานที่เป็นโรคนี้ โดยการทำห้องนอน และที่อยู่อาศัยให้สะอาด เพื่อให้เด็กปลอดการติดเชื้อ เด็กที่เป็นหัวใจรั่ว จะเป็นปอดบวม หรือปอดอักเสบได้ง่าย เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดโลหิตได้ทัน ทำให้น้ำท่วมปอดได้ง่าย การหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าร่างกายมาก จะทำให้เด็กหายใจติดขัด ประกอบกับออกซิเจนที่มีอยู่ในเลือดน้อย จะทำให้เด็กรู้สึกอึดอัด ขี้ร้อน ขี้หงุดหงิด เนื่องจากไม่สบายตัว ผู้ปกครองอาจติดถังออกซิเจนในห้องนอน เพื่อช่วยเด็กให้หายใจสะดวกเวลานอน, ติดเครื่องฟอกอากาศเพื่อกรองฝุ่นละออง รวมทั้งเครื่องปรับอากาศได้ หากเด็กมีอาการค่อนข้างรุนแรง นอกจากนั้นปัจจัยเสริมเรื่องอาหารการกินก็เป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ เมื่อในหลอดเลือดแดงมีเลือดเสียปนอยู่มาก ร่างกายเด็กจึงเจริญเติบโตช้า รวมทั้งพัฒนาการก็จะช้า แต่เด็กจะไม่ปัญญาอ่อนเพราะเป็นคนละโรคกัน ผู้ปกครองควรหาอาหารเสริมให้บุตรหลานเพิ่มเติม จากปรกติ เด็กจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งบางครั้งในรายที่มีอาการหัวใจรั่วเพียงเล็กน้อย ร่างกายอาจสร้างกล้ามเนื้อมาปิดรอยรั่ว ทำให้เด็กหายจากโรคได้
อาหารต่างๆ ที่มีรสเค็ม หรืออาหารมันควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กรับประทานมากเกินไป ควรทำอาหารให้มีรสค่อนข้างจืด เพื่อช่วยไม่ให้หัวใจเด็กทำงานหนัก การออกกำลังกายอย่างหนัก เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ อาจทำให้เด็กหัวใจวายเฉียบพลันได้ ผู้ปกครองควรเรียนรู้เรื่องของการปฐมพยาบาล เมื่อผู้ป่วยหยุดหายใจ เพราะทุกวินาทีมีค่ามากในการช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคนี้ หากส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีการปฐมพยาบาลไประหว่างทางนั้น จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้นผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ตลอดเวลา ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อเช็คอาการของโรคและขอคำแนะนำจากแพทย์ รวมทั้งหาแนวทางในการรักษาโดยตลอด เนื่องจากโรคนี้เป็นอันตราย โดยตรงถึงชีวิตเด็ก ไม่ใช่โรคปวดหัวตัวร้อนที่สามารถรักษาหายได้เองในกรณีเด็กมีอาการมาก หากแพทย์แนะนำให้ผ่าตัดหัวใจได้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย หรือในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถผ่าตัดได้ ผู้ปกครองสามารถยื้อชีวิตเด็กให้ยืนยาวได้ด้วยการเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเด็ก ซึ่งจะอธิบายให้ทราบอย่างละเอียด ในหัวข้อถัดไป
ป้ายกำกับ:
หัวใจพิการแต่กำเนิด,
หัวใจรั่ว,
congenital heart disease
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)